เชื่อว่าแต่ละบ้านต้องมีน้ำมันมะกอกติดครัวไว้สักขวด เพื่อใช้ในการประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารคลีน อาหารคีโต เป็นต้น ทั้งนี้ ประโยชน์น้ำมันมะกอก มีมากมายทั้งด้านสุขภาพ ความสวยความงาม เรามาดูกันว่าประโยชน์น้ำมันมะกอก มีอะไรบ้างและน้ำมันมะกอกที่คุณใช้อยู่ ใช้ถูกต้องแล้วหรือยัง เรามาดูกันเลยค่ะ
น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คืออะไร
ก่อนที่เราจะมาดูประโยชน์น้ำมันมะกอกที่มีมากมากหลายอย่างนั้น เรามาทำความรู้จักกับน้ำมันมะกอกกันก่อน น้ำมันมะกอก (Olive Oil) คือ น้ำมันธรรมชาติที่สกัดจากผลของต้นมะกอกจัดอยู่ในกลุ่มของน้ำมันพืช มีสีเขียวใส สีเหลืองใส หรือใสไม่มีสี ขึ้นอยู่กับการนำมาผลิตน้ำมันมะกอก แต่เคยสังเกตหรือไม่ว่า เวลาที่เราอยากจะเลือกซื้อน้ำมันมะกอกสักขวดสำหรับการทำอาหาร จะพบว่ามีน้ำมันมะกอกมากมายหลายสูตร วางเรียงรายอยู่บนชั้นวางสินค้า แล้วสูตรไหนเหมาะสำหรับการทำอาหารประเภทใด เรามีคำอธิบายดังนี้
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (Extra Virgin)
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (Extra Virgin) เป็นน้ำมันมะกอกที่มีสีเขียวเข้ม ได้มาจากการบีบเอาน้ำมันออกมาจากมะกอกสด ๆ จึงทำให้น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น (Extra Virgin) เป็นน้ำมันมะกอกที่มีราคาสูง และดีที่สุดของน้ำมันมะกอก แต่ต้องไม่ผ่านความร้อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำมันมะกอกสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการไป และจะกลายเป็นไขมันไม่ดีแทน
เหมาะสำหรับ : น้ำสลัด ซอสต่าง ๆ ที่ไม่ผ่านความร้อน
ไม่ควร : ไม่เหมาะกับอาหารที่ใช้ความร้อนสูง
แนะนำ : Bertolli Extra Virgin (ฝาสีเขียวเข้ม),Bertolli Extra virgin (แบบสเปรย์)
น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (Virgin)
น้ำมันมะกอกเวอร์จิ้น (Virgin) เป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ได้จากการบีบเอาน้ำมันมาจากลูกมะกอกเหมือนกัน แต่ผลมะกอกที่บีบนั้นจะแก่กว่า จึงทำให้มีคุณภาพรองลงมาจากน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้น จึงทำให้มีราคาจะถูกกว่าน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น แต่ก็อยู่ในคุณภาพดีอยู่เช่นกัน
เหมาะสำหรับ : น้ำสลัด ซอสต่าง ๆ ที่ไม่ผ่านความร้อน
ไม่ควร : ไม่เหมาะกับอาหารที่ใช้ความร้อนสูง
น้ำมันมะกอกแบบผสม (Olive Oil หรือ Pure Olive Oil)
น้ำมันมะกอกแบบผสม เป็นน้ำมันที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นกับน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารเข้าไป ทำให้ได้น้ำมันมะกอกมีคุณค่าสารอาหารสูง ทนความร้อนได้ดีขึ้น จึงสามารถนำไปประกอบอาหารโดยผ่านความร้อนแปบเดียว แต่ทอดไม่ได้ เพราะคุณค่าทางสารอาหารในน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นก็จะหายไป กลายเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายเหมือนเดิม
เหมาะสำหรับ : ผัดอาหารแบบเร็ว เช่น ผัดผัก ข้าวผัด
ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการทอดอาหารนาน ๆ
แนะนำ : Bertolli Classico (ฝาสีส้ม)
น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil)
น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil) เป็นน้ำมันไม่มีน้ำมันมะกอกเอ๊กซ์ตร้าเวอร์จิ้นผสมอยู่ มีการสกัดเอาสี กลิ่น รส เดิมออกไป โดยผ่ายกรรมวิธีทางเคมี และผ่านความร้อน ทำให้นำมันค่อนข้างใส และมีราคาไม่สูง แต่สามารถทนความร้อนได้สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
เหมาะสำหรับ : อาหารที่ใช้ความร้อนสูงในการทำอาหาร พวกผัด ทอด อบ ต่าง ๆ
ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำทำน้ำสลัดหรือผสมซอส
แนะนำ : Bertolli Extra light (ฝาสีเขียวอ่อน) ,Bertolli Extra light (แบบสเปรย์)
น้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil)
น้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil) เป็นน้ำมันที่มาจากการสกัดเอาน้ำมันออกมาจากกากมะกอกอีกที ผ่านกรรมวิธีทางเคมี ผ่านความร้อน คุณภาพต่ำแต่ยังสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ ไม่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารมากนัก
เหมาะสำหรับ : ใช้ทอดอาหารได้นานยิ่งขึ้น
ไม่ควร : ไม่เหมาะกับการนำมาทำน้ำสลัด หรือผสมซอส
เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการกินน้ำมันมะกอกสูงสุด แนะนำว่าเลือกใช้น้ำมันมะกอกให้เหมาะสมกับการประกอบอาหาร ทั้งนี้ประโยชน์น้ำมันมะกอก
ประโยชน์น้ำมันมะกอก มีอะไรบ้าง
เมื่อรู้วิธีการเลือกน้ำมันมะกอกให้เหมาะสมกับการประกอบอาหารได้อย่างถูกต้องแล้ว เรามาดูกันต่อว่าประโยชน์น้ำมันมะกอกที่สำคัญ มีอะไรบ้าง
ควบคุมคอเลสเตอรอล
น้ำมันมะกอก เป็นไขมันที่ดี ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลชนิดเลวให้อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลดีต่อหัวใจ และยังมีงานวิจัยระบุว่าสารประกอบในน้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์ยังออกฤทธิ์คล้ายกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ แต่ไม่ส่งผลข้างเคียงหรือกัดกระเพาะอาหาร จากการค้นคว้าวิจัยพบว่า น้ำมันมะกอกนั้นสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ในขณะเดียวกันจะไม่ทำให้คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ลดระดับลง
ลดน้ำหนัก
เนื่องจากน้ำมันมะกอกมีส่วนช่วยกระตุ้นสมองที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไขมัน ทำให้ร่างกายไม่อยากรับไขมันเพิ่มจนทำให้เคยชินและสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่าการงดอาหารนั่นเองทั้งนี้ต้องกินควบคู่กับอาหารไขมันต่ำ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอด้วย
ต่อต้านอนุมูลอิสระ
น้ำมันมะกอก ประกอบไปด้วยสารไลโคปีนมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระและลดสารออกซิเดชัน ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดี ผิวหนังอ่อนเยาว์กว่าวัย ริ้วรอยลดเลือน และยังลดสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน นอกจกานี้หากนำมาทาบนใบหน้าจะซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้ามากนัก หรือจะใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวต่างๆก๋ได้
ระบบหมุนเวียนเลือดดี
ช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (arteriosclerosis) รวมทั้งภาวะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย ไตวาย และเส้นเลือดในสมองแตก
ช่วยระบบย่อยและระบบขับถ่ายดีขึ้น
น้ำมันมะกอก มีส่วนให้ระบบการทำงานของส่วนต่าง ๆ ภายในช่องท้องทำงานได้อย่างดีขึ้นและเป็นปกติ รวมไปถึงช่วยให้ระบบการขับถ่ายดีขึ้น ช่วยรักษาความผิดปกติในช่องท้อง ภาวะท้องผูกต่างๆให้ดีขึ้น ระบบย่ออาหารดี รวมไปถึงบรรเทาอาการกระเพาะอักเสบ แผลในกระเพาะ และเป็นยาระบายอ่อนๆ โดยรับประทานน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ ในตอนเช้าขณะท้องว่าง จะดีต่อผู้ที่เป็นโรคท้องผูกเรื้อรังอีกด้วย
ลดความเครียด
จากงานวิจัยหลายตัวทำให้พบว่าน้ำมันมะกอกสามารถช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล หรืออาการซึมเศร้าได้ ทำให้ไม่เกิดอาการอ้วนลงพุงจากความเครียด ทำให้จิตใจแจ่มใสร่าเริง อารมณ์ดี และยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการผิดปกติทางจิตได้ประโยชน์น้ำมันมะกอกนั้นมีมากมายหลายอย่าง ทั้งนี้เพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ำมันมะกอกมากที่สุด ควรจะเลือกใช้น้ำมันมะกอกให้ถูกกับการประกอบอาหาร เพื่อรักษาคุณค่าทางสารอาหาร และไม่ทำให้ไขมันดีของน้ำมันมะกอกกลายเป็นไขมันไม่ดีที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพนั่นเองค่ะ