รางน้ำ หรือ รางน้ำฝน มีกี่ประเภท เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับบ้านคุณ

รางน้ำ

รางน้ำ หรือ รางน้ำฝน ส่วนประกอบที่สำคัญของบ้านที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ความจริงแล้วรางน้ำมีความสำคัญมากกว่าที่คิด ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับรางน้ำ หรือรางน้ำฝนว่ามีกี่ประเภท และประโยชน์ของรางน้ำมีอะไรมากที่คุณคิดบ้าง 

รางน้ำ หรือ รางน้ำฝน มีกี่ประเภท

รางน้ำ หรือ รางน้ำฝน ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของบ้านที่บางบ้านอาจมองข้าม และไม่ได้ติดตั้งรางน้ำ หรือ รางน้ำฝนนี้ แต่หน้าที่สำคัญของรางน้ำนั้น จะช่วยรับมือกับน้ำฝนที่ตกและไหลลงหลังคาให้ไหลไปยังจุดที่ต้องการได้ไม่ไหลกระเด็นไปยังพื้นที่ส่วนอื่น ทั้งนี้รางน้ำ แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้

รางน้ำสังกะสี

ในสมัยก่อนรางน้ำสังกะสีได้รับความนิยมมาก แต่ในปัจจุบันยังพบเห็นรางน้ำสังกะสีตามบ้านเรือนอยู่บ้าง เพราะมีราคาถูก ติดตั้งไม่ยาก แต่ข้อเสียคือสนิมกิน ผุกร่อนง่าย

รางน้ำอลูมิเนียม 

รางน้ำอลูมิเนียม เป็นรางน้ำที่ทนต่อการกัดกร่อนสนิม น้ำหนักเบาและมีอายุการใช้งานนาน จึงมีคุณสมบัติดีกว่ารางน้ำสังกะสี

รางน้ำสแตนเลส

รางน้ำสแตนเลส มีคุณสมบัติทนทานกว่ารางน้ำสังกะสี ไม่เกิดสนิม แต่เดิมรางน้ำสแตนเลสนิยมใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมมาก่อน ภายหลังจึงนำมาใช้กับที่พักอาศัย รางน้ำสแตนเลสถือเป็นรางน้ำที่มีความทนทาน แต่มีราคาสูง 

รางน้ำไวนิล

รางน้ำไวนิล เป็นรางน้ำทำจากพลาสติก มีจุดเด่นในเรื่องของความสวยงาม เหมาะกับแบบบ้านหลากหลายสไตล์ มีหลายสีให้เลือกอีกด้วย

รางน้ำไฟเบอร์กลาส

รางน้ำไฟเบอร์กลาส เป็นรางน้ำสำเร็จรูปที่นิยมให้กับโรงงานอุตสาหกรรม เพราะทนต่อการผุกร่อนจากสารเคมีและเป็นสนิม

ประโยชน์ของรางน้ำฝน มีอะไรบ้าง?

สมัยก่อนรางน้ำ หรือรางน้ำฝน มีหน้าที่หลักในการช่วยลำเลียงน้ำฝนให้ไหลลงมาในโอ่ง ตุ่ม เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง ทั้งอุปโภคบริโภค แต่ในปัจจุบันรางน้ำ ช่วยลำเลียงน้ำฝนไหลไปสู่จุดที่ต้องการ เพื่อความเป็นระเบียบ นอกจากนี้รางน้ำยังมีประโยชน์ ดังนี้

ลดความเสียหายของต้นไม้ สนามหญ้า

น้ำฝนที่ตกลงพื้นหญ้าหรือต้นไม้ในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการท่วมขัง ทำความเสียหายให้กับต้นไม้แสนรักและทำห้พื้นดินทรุดตัวได้ 

ป้องกันไม่ให้น้ำฝนกระเด็นรบกวนเพื่อนบ้าน

น้ำฝนจากชายคาที่ไม่มีรางน้ำรองรับ อาจกระเด็นไปยังบ้านของเพื่อนบ้านและอาจนำไปสู่ปัญหากับเพื่อนบ้านในภายหลัง แต่ข้อควรระวังจะต้องติดตั้งรางน้ำ ต้องติดตั้งภายในเขตพื้นที่ตัวเอง ไม่ล้ำไปเขตเพื่อนบ้านเด็ดขาด

ป้องกันน้ำฝนกระเด็นโดนผนังบ้าน

นอกจากจะช่วยไม่ให้น้ำฝนกระเด็นไปยังเพื่อนบ้านแล้ว รางน้ำยังช่วยไม่ให้น้ำฝนกระเด็นเข้าผนังบ้านของเราเอง ไม่ทำให้บ้านเกิดคราบสกปรกจากน้ำฝน และช่วยลดการเกิดราตามผนังอีกด้วย

การเลือกขนาดรางน้ำฝน ให้เหมาะกับขนาดหลังคา

  1. หลังคายาวไม่เกิน 5 เมตร แนะนำให้เลือกรางน้ำฝนขนาด 4 นิ้ว แต่ต้องวางท่อน้ำลงให้เหมาะสม
  2. หลังคายาว 5-15 เมตร แนะนำให้เลือกรางน้ำฝนขนาด 5 นิ้ว แต่ต้องวางท่อน้ำลงให้เหมาะสม
  3. หลังคายาว 15 เมตรขึ้นไป แนะนำให้เลือกรางน้ำฝนขนาด 6 นิ้ว แต่ต้องวางท่อน้ำลงให้เหมาะสม

การดูแลรักษารางน้ำให้ใช้งานได้ดียาวนาน

เราสามารถดูแลรักษารางน้ำ ให้สามารถใช้งานได้นาน ๆ ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

  1. ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำภายในรางน้ำว่ามีการรั่วไหลหรือไม่ และสำรวจตะขอแขวนรางว่าแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ หากพบว่าแต่ละส่วนอยู่ในภาพไม่สมบูรณ์ ให้ทำการซ่อมแซมแก้ไขให้เรียบร้อย
  2. รางน้ำมักจะมีเศษใบไม้ เศษสกปรกตกค้างในรางน้ำ ให้ทำการทำความสะอาดอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนรางน้ำรับน้ำหนักไม่ไหว อาจจะตกลงมาพังเสียหายได้

แนวทางการติดตั้งรางน้ำที่ถูกต้อง

ในการติดตั้งรางน้ำฝนแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกัน แต่พื้นฐานของการติดตั้งรางน้ำ มีดังนี้

  1. สำรวจพื้นที่ติดตั้งรางน้ำรวมไปถึงเชิงชาย ปีกนกสำหรับการติดตั้งรางน้ำ
  2. วัดระดับน้ำระหว่างหัวท้ายของรางน้ำ เพื่อวัดความลาดเอียงของรางน้ำ และตีแนวเพื่อสร้างแนวเส้นสำหรับติดตั้งรางน้ำ
  3. ติดตั้งตะขอแขวนรางตามระยะที่เหมาะสมกับประเภทรางน้ำโดยทั่วไปจะเว้นระยะห่างประมาณ 60-80 เซนติเมตร หากเป็นรางน้ำฝนไวนิลจะต้องใช้ซิลิโคนในการช่วยเชื่อมระหว่างรอยต่อ
  4. ติดตั้งรางน้ำฝนกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด
  5. เช็กการทำงานของรางน้ำฝน โดยการทดลองฉีดน้ำบนหลังคา หากน้ำไหลเป็นปกติ ก็ถือว่าสำเร็จเรียบร้อย

รางน้ำ หรือ รางน้ำฝน เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บ้านของคุณมีความเรียบร้อย ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากน้ำฝนที่ไหลตกลงมาทั้งน้ำท่วมขัง ต้นไม้เสียหาย และที่สำคัญน้ำฝนจากบ้านเราจะไม่กระเด็นรบกวนเพื่อนบ้าน และบ้านของเราเองอีกด้วย