
ซอสคาราเมล เป็นซอสที่นิยมนำมาราดเป็นท็อปปิ้งเมนูของหวานหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นเค้ก แพนเค้ก หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ วันนี้เราจึงจะมาแะนำวิธีทำคาราเมลแบบง่าย ๆ เตรียมของน้อย ใช้เวลาทำไม่นานมาฝากกันค่ะ
คาราเมล คืออะไร?
เมื่อพูดถึงคาราเมลแล้ว เชื่อว่าสายหวานหลายคนชื่นชอบเมนูของหวานที่มีซอสคาราเมลเป็นส่วนประกอบ เพราะกลิ่นหอมคล้ายน้ำตาลไหม้หน่อย ๆ รสชาติหวาน ช่วยเพิ่มความอร่อยให้เมนูขนมหวาน ไอศกรีม รวมไปเครื่องดื่มของคุณ สำหรับคาราเมลนั้น เกิดจากน้ำตาลทรายขาวไหม้ โดยการเคี่ยวไฟจนน้ำตาลละลาย แต่วิธีทำคาราเมลนั้น แม้ว่าจะมีส่วนผสมไม่กี่อย่าง แต่วิธีทำคาราเมลนั้นก็ต้องอาศัยความตั้งใจ และความรวดเร็วในการทำ โดยวิธีทำคาราเมลที่เราจะแนะนำในวันนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธีดังนี้
วิธีทำคาราเมลมีอะไรบ้าง
ส่วนผสมหลักของวิธีทำคาราเมลทุกสูตร คือ น้ำตาลทรายขาว ส่วนวิธีทำคาราเมลนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 วิธี ดังนี้
วิธีทำคาราเมล แบบแห้ง Dry Method
วิธีนี้จะใช้ส่วนผสมแค่อย่างเดียว คือ น้ำตาลทราย ข้อดีของวิธีทำคาราเมลสูตรนี้คือ ใช้เวลาน้อย แต่ต้องระวังเรื่องของน้ำตาลไหม้ที่เร็วกว่าวิธีอื่น
ส่วนผสมคาราเมล แบบแห้ง
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
 
วิธีทำคาราเมล แบบแห้ง
- นำหม้อตั้งบนเตา เปิดไฟกลาง ตั้งหม้อ เปิดไฟกลาง
 - เทน้ำตาลลงในหม้อ รอน้ำตาลละลายจนหมด ไม่ต้องคน หรือใช้วิธียกหม้อวนไปมา
 - น้ำตาลละลายหมดแล้ว ยกลงจากเตาและนำไปใช้ทันที เพราะหากซอสคาราเมลเย็นจะจับตัวทันที
 
วิธีทำคาราเมล แบบแห้ง Wet Method
วิธีทำคาราเมลสูตรนี้ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่หัดทำคาราเมล เพราะจะเพิ่มส่วนผสมของน้ำเปล่าด้วย เพื่อไม่ให้คาราเมลไหม้เร็วนั่นเอง
ส่วนผสมคาราเมล แบบแห้ง
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
 - น้ำเปล่า 75 มิลลิลิตร
 
วิธีทำคาราเมล แบบแห้ง
- เทน้ำเปล่า น้ำตาลลงในหม้อ
 - นำหม้อไปตั้งบนเตา เปิดไฟอ่อนหรือกลาง
 - เมื่อน้ำตาลเริ่มละลาย เขย่าหม้อวนไปมา
 - เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด รอจนกว่าน้ำตาลจะเริ่มเปลี่ยนสี เขย่าหม้อวนเบา ๆ เป็นระยะ เพื่อให้น้ำตาลละลายอย่างทั่วถึง
 - น้ำตาลเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลให้ยกลงจากเตาทันที นำไปใช้ได้เลย
 - หากยังไม่นำคาราเมลใช้ทันที ควรใส่ภาชนะแล้วให้นำมาแช่ในน้ำร้อนป้องกันการแข็งตัวเร็วของซอสคาราเมล
 
การทำซอสคาราเมล
วิธีการทำคาราเมลสูตรนี้ จะต้องเตรียมส่วนผสมมากขึ้น แต่มีรสชาติที่อร่อยกว่าและสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมากถึง 3-4 สัปดาห์
ส่วนผสมซอสคาราเมล
- น้ำตาลทราย 200 กรัม
 - เนยจืด 80 กรัม
 - กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
 - วิปปิ้งครีม 240 กรัม
 - เกลือ
 
วิธีทำซอสคาราเมล
- ใส่น้ำตาลลงในหม้อ แล้วนำไปตั้งเตาเปิดไฟกลาง
 - รอจนน้ำตาลละลายจนหมดก่อนจึงจะสามารถเขย่าหม้อวนเบา ๆ ได้
 - จากนั้นปรับเป็นไฟเบา ใส่เนยจืดลงไป คนให้เข้ากัน
 - ยกลงจากเตา เทวิปครีมตามลงไป คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันจนเนื้อเนียน และเติมเกลือลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง
 - เสร็จแล้วยกหม้อขึ้นเตาไฟอีกครั้ง คนซอสคาราเมลต่อจนเหนียวหนืดแล้วปิดไฟ
 - เทใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ แล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย
 - หากต้องการเก็บ พักไว้ให้เย็นก่อนแล้วนำเข้าตู้เย็น เก็บได้นาน 1 เดือน
 
Hershey's Syrup Indulgent Caramel Flavor 623 กรัม
Shopee: https://shope.ee/7Un5AFnUEy
เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ซอสคาราเมลแสนอร่อย สามารถเลือกทำได้ทั้ง 3 แบบนี้ แต่เชื่อว่ามีบางคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าแล้วซอสคาราเมลกับบัตเตอร์สก็อต ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันอย่างไร เรามีคำอธิบายมาฝากค่ะ
บัตเตอร์สก็อต กับ คาราเมล ต่างกันยังไง?
ถ้าเราดูจากวิธีทำคาราเมลนั้น จะใช้น้ำตาลทรายขาวเคี่ยวจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และมีกลิ่นน้ำตาลไหม้ แต่บัตเตอร์สก็อตจะเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามกันเลย เพราะบัตเตอร์สก็อต ทำจากน้ำตาลทรายแดงและเนยเป็นหลัก แถมยังทำง่ายกว่าคาราเมล เพราะไม่ต้องเคี่ยวน้ำตาลให้ไหม้นั่นเอง จึงทำให้บัตเตอร์สก็อต มีความหวาน หอมเนย นุ่มนวล และไม่มีกลิ่นไหม้ หรือรสขมมากวนใจแต่อย่างใด ส่วน
บัตเตอร์สก็อต
ส่วนผสมบัตเตอร์สก็อต
- เนยจืด 4 ช้อนโต๊ะ
 - น้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย
 - วิปปิ้งครีม ½ ถ้วย
 - ดอกเกลือหรือเกลือเม็ดใหญ่ ½ ช้อนชา
 - กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
 
วิธีทำบัตเตอร์สก็อต
- นำเนยจืดละลายในหม้อด้วยไฟอ่อน
 - เนยละลายแล้ว เติมน้ำตาลทรายแดงตามลงไป รีบคนให้เข้ากัน
 - รีบเติมวิปปิ้งครีม เกลือ และกลิ่นวนิลาคนให้เข้ากัน ตั้งไฟจนเดือด
 - เคี่ยวต่อประมาณ 3-4 นาที คอยคนไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่ไหม้
 - เติมเกลือเล็กน้อย เป็นอันเสร็จนำไปใช้ต่อได้เลย
 - หากต้องการเก็บ ควรใส่ภาชนะแล้วพักให้หายเย็น เก็บใส่ไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 3-5 วัน เมื่อจะใช้ให้ตักแบ่งอุ่นในไมโครเวฟต่อไป
 
Juniper Sundae Topping Butterscotch Topping
Shopee: https://shope.ee/3Ae60KyqxH
หวังว่าคุณจะนำสูตรวิธีทำคาราเมลไปลองทำที่บ้าน รวมไปถึงบัตเตอร์สก็อต ที่มีความแตกต่างจากคาราเมล แต่ซอสทั้งสองชนิดนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำขนมที่ต้องมีไว้ติดบ้าน หรือหากคุณไม่มีเวลาทำ ก็สามารถหาซื้อแบบสำเร็จรูปใช้งานง่ายก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันค่ะ
